Translation:Charter of the Courts of Justice 2000/13

From Wikisource
Jump to navigation Jump to search

13

[edit]
« sect
chaptoc
sectchap »
มาตรา ๑๓[13.i]

ให้มีอธิบดีผู้พิพากษาภาค ภาคละหนึ่งคน จำนวนเก้าภาค มีสถานที่ตั้งและเขตอำนาจตามที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา กับให้มีรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค ภาคละสามคน ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในทางราชการ คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม โดยความเห็นชอบของประธานศาลฎีกา จะกำหนดให้มีรองอธิบดีผู้พิพากษาภาคมากกว่าสามคน แต่ไม่เกินหกคนก็ได้

เมื่อตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาภาคว่างลง หรือเมื่อผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองอธิบดีผู้พิพากษาภาคที่มีอาวุโสสูงสุดเป็นผู้ทำการแทน ถ้าผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ผู้ที่มีอาวุโสถัดลงมาตามลำดับเป็นผู้ทำการแทน

ในกรณีที่ไม่มีผู้ทำการแทนตามวรรคสอง ประธานศาลฎีกาจะสั่งให้ผู้พิพากษาคนหนึ่งเป็นผู้ทำการแทนก็ได้

ผู้พิพากษาอาวุโสหรือผู้พิพากษาประจำศาลจะเป็นผู้ทำการแทนในตำแหน่งตามวรรคหนึ่งไม่ได้

Section 13[13.a]
  1. There shall be one Chief Judge of the Region for each of the nine Regions,[13.1] which have the locations and jurisdiction according to the determinations which the Courts of Justice Judicial Service Commission issues by publication in the Government Gazette, and there shall be three Deputy Chief Judges of the Region for each Region. In case of necessity for the benefit of the official service, the Courts of Justice Judicial Service Commission may, with the approval of the President of the Supreme Court of Justice, determine that there be more than three but not exceeding six Deputy Chief Judges of the Region.
  2. When a position of Chief Judge of the Region falls vacant or when the holder of the said position becomes unable to carry out his official service, the most senior Deputy Chief Judge of the Region shall act in such capacity. If the most senior person is unable to carry out his official service, the person next in line of seniority shall act.
  3. In the event that there is no person to act in accordance with paragraph 2, the President of the Supreme Court of Justice may order a particular judge to act.
  4. No senior judge[8.1] or junior judge[8.2] shall act in the capacity of any position under paragraph 1.
Original notes
  1.   มาตรา ๑๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕
Wikisource notes
  1.   Literally 'There shall be Chief Judges of Regions, one person for each Region, numbering nine Regions'.

14

[edit]
« sect
chaptoc
sectchap »
มาตรา ๑๔

ให้อธิบดีผู้พิพากษาภาคเป็นผู้พิพากษาในศาลที่อยู่ในเขตอำนาจด้วยผู้หนึ่ง โดยให้มีอำนาจและหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง และให้มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ด้วย

(๑) สั่งให้หัวหน้าสำนักงานประจำศาลยุติธรรมรายงานเกี่ยวด้วยคดีหรือรายงานกิจการอื่นของศาลที่อยู่ในเขตอำนาจของตน
(๒) ในกรณีจำเป็น จะสั่งให้ผู้พิพากษาคนใดคนหนึ่งในศาลที่อยู่ในเขตอำนาจของตนไปช่วยทำงานชั่วคราวมีกำหนดไม่เกินสามเดือนในอีกศาลหนึ่งโดยความยินยอมของผู้พิพากษานั้นก็ได้ แล้วรายงานไปยังประธานศาลฎีกาทันที

ให้รองอธิบดีผู้พิพากษาภาคเป็นผู้พิพากษาในศาลที่อยู่ในเขตอำนาจด้วย โดยให้มีอำนาจตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง (๒) และให้มีหน้าที่ช่วยอธิบดีผู้พิพากษาภาคตามที่อธิบดีผู้พิพากษาภาคมอบหมาย[14.i]

Section 14
  1. The Chief Judge of a Region shall also be a judge of the courts under his jurisdiction, having the powers and duties as determined in section 11, paragraph 1, in addition to the following authority:
    (1) to order the heads of court of justice offices to send reports concerning cases or reports on other affairs of the courts under his jurisdiction;
    (2) in case of necessity, to order any particular judge of a court under his jurisdiction to go assist in the work of another court for a temporary period of not exceeding three months with the consent of that judge; prescribed that he shall then send a report to the President of the Supreme Court of Justice forthwith.
  2. The Deputy Chief Judges of a Region shall also be judges of the courts under their jurisdiction, having the powers as determined in section 11, paragraph 1 (2), and bearing the duty to assist the Chief Judge of their Region as authorised by the Chief Judge of the Region.[14.a]
Original notes
  1.   มาตรา ๑๔ วรรคสอง เพิ่มโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕
  1.   Section 14, paragraph 2, has been inserted by the Charter of the Courts of Justice Amendment Act (No. 4) 2012.