Translation:Charter of the Courts of Justice 2000/24
Chapter 3
[edit]
หมวด ๓
องค์คณะผู้พิพากษา |
Chapter 3
Judicial quorums |
24
[edit]
มาตรา ๒๔
ให้ผู้พิพากษาคนหนึ่งมีอำนาจดังต่อไปนี้
|
Section 24
A single judge shall have the following power:
|
25
[edit]
มาตรา ๒๕
ในศาลชั้นต้น ผู้พิพากษาคนเดียวเป็นองค์คณะ มีอำนาจเกี่ยวแก่คดีซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลนั้นดังต่อไปนี้
ผู้พิพากษาประจำศาลไม่มีอำนาจตาม (๓) (๔) หรือ (๕) |
Section 25
|
- Wikisource notes
- ↑ Literally 'but [he] is unable to impose the punishment of imprisonment in excess of six months, or a fine in excess of ten thousand baht, or both imprisonment and fine, which either or both of the punishment of imprisonment and fine exceed the said rate'.
26
[edit]
มาตรา ๒๖
ภายใต้บังคับมาตรา ๒๕ ในการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลชั้นต้น นอกจากศาลแขวงและศาลยุติธรรมอื่นซึ่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลนั้นกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ต้องมีผู้พิพากษาอย่างน้อยสองคน และต้องไม่เป็นผู้พิพากษาประจำศาลเกินหนึ่งคน จึงเป็นองค์คณะที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งหรือคดีอาญาทั้งปวง |
Section 26
Subject to section 25, as for the trial and adjudication of cases of a court of first instance other than a municipal court or another court of justice for which its constituent act determines otherwise, there must be at least two judges, amongst whom there must be no more than one junior judge,[8.2] to constitute a quorum with the power to try and adjudicate all civil cases or criminal cases. |
27
[edit]
มาตรา ๒๗
ในการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลฎีกา ต้องมีผู้พิพากษาอย่างน้อยสามคน จึงเป็นองค์คณะที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีได้ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค และผู้พิพากษาศาลฎีกา ที่เข้าประชุมใหญ่ในศาลนั้นหรือในแผนกคดีของศาลดังกล่าว เมื่อได้ตรวจสำนวนคดีที่ประชุมใหญ่หรือที่ประชุมแผนกคดีแล้ว มีอำนาจพิพากษาหรือทำคำสั่งคดีนั้นได้ และเฉพาะในศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค มีอำนาจทำความเห็นแย้งได้ด้วย |
Section 27
|