User:Venise12mai1834/Sandbox/1

From Wikisource
Jump to navigation Jump to search
1, 2, 3

0

[edit]
Seal of the Royal Command
Seal of the Royal Command

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม

สมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก
มหันตเดชนดิลกรามาธิบดี
พระปกเกล้าเจ้าแผ่นดินสยาม

01

[edit]
ศุภมัสดุ พระพุทธศาสนกาลเป็นอดีตภาค ๒๔๗๕ พรรษา ปัจจุบันนสมัย จันทรคตินิยม ปละวังคสมพัตสร มฤคศิรมาส ศุกลปักษ์ เตรสีดิถี สุริยคติกาล ธันวาคมมาส ทศมสุรทิน สนิวาร โดยกาลบริจเฉท

02

[edit]
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก มหันตเดชนดิลกรามาธิบดี เทพยปรียมหาราชรวิวงศ อสัมภินพงศพีระกษัตร บุรุษรัตนราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ อุภโตสุชาตสำศุทธเคราหณี จักรีบรมนาถ จุฬาลงกรณราชวรางกูร มหามกุฏวงศวีรสูรชิษฐ ราชธรรมทศพิธ อุต์กฤษฏนิบุณ อดุลยกฤษฎาภินีร์หาร บูรพาธิการสุสาธิต ธันยลักษณวิจิตรเสาภาคยสรรพางค์ มหาชโนตมางคมานท สนธิมตสมันตสมาคม บรมราชสมภาร ทิพยเทพาวตารไพศาลเกียรติคุณ อดุลยศักดิเดช สรรพเทเวศปริยานุรักษ มงคลลัคนเนมาหวัย สุโขทัยธรรมราชา อภิเนาวศิลปศึกษาเดชนาวุธ วิชัยยุทธศาสดรโกศล วิมลนรรยพินิต สุจริตสมาจาร ภัทรภิชญานประดิภานสุนทร ประวรศาสโนปสดมภก มูลมุขมาตยวรนายกมหาเสนานี สราชนาวีพยูหโยธโพยมจร บรมเชษฐโสทรสมมต เอกราชยยศสธิคมบรมราชสมบัติ นพปฏลเศวตฉัตราดิฉัตร ศรีรัตโนปลักษณ มหาบรมราชาภิเษกาภิษิกต์ สรรพทศทิควิชิตเดโชไชย สกลมไหศวรยมหาสวามินทร มเหศวรมหินทรมหารามาธิราชวโรดม บรมนาถชาติอาชันยาศรัย พุทธาทิไตรรัตนศรณารักษ วิศิษฎศักตอัครนเรศวราธิบดี เมตตากรุณาศีตลหฤทัย อโนปไมยบุนยการ สกลไพศาลมหารัษฎราธิบดินทร ปรมินทรธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนาถบพิตรพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

03

[edit]
เสด็จออกณพระที่นั่งอนันตสมาคม ท่ามกลางอุดมสันนิบาต พระบรมราชวงศานุวงศ์ และทูตานุทูตผู้แทนนานาประเทศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เสนามาตยราชบริพาร เฝ้าเบื้องบาทบงกชพรั่งพร้อมกันโดยอนุกรม

04

[edit]
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศความพระราชปรารภว่า ข้าราชการทหารพลเรือนและอาณาประชาราษฎรของพระองค์ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานรัฐธรรมนูญเพื่อให้สยามราชอาณาจักรได้มีการปกครองตามวิสัยอารยประเทศในสมัยปัจจุบัน

05

[edit]
ทรงพระราชดำริเห็นว่า สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินในพระบรมราชจักรีวงศ์ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชย์ผ่านสยามพิภพ ทรงดำเนิรพระราโชบายปกครองราชอาณาจักรด้วยวิธีสมบูรณาญาสิทธิราชภายในทศพิธราชธรรมจรรยา ทรงทำนุบำรุงประเทศให้รุ่งเรืองไพบูลย์สืบมาครบ ๑๕๐ ปีบริบูรณ์ ประชาชน ชาวสยามได้รับพระบรมราชบริหารในวิถีความเจริญนานาประการโดยลำดับ จนบัดนี้ มีการศึกษาสูงขึ้นแล้ว มีข้าราชการประกอบด้วยวุฒิปรีชาในรัฐาภิปาลโนบาย สามารถนำประเทศชาติของตนในอันที่จะก้าวหน้าไปสู่สากลอารยธรรมแห่งโลกโดยสวัสดี สมควรแล้วที่จะพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ข้าราชการและประชาชนของพระองค์ได้มีส่วนมีเสียงตามความเห็นดีเห็นชอบในการจรรโลงประเทศสยามให้วัฒนาการในภายภาคหน้า จึ่งทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานรัฐธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามตามความประสงค์เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๕ เป็นการชั่วคราวพอให้สภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมการราษฎรได้จัดรูปงานดำเนิรประศาสโนบายให้เหมาะสมแก่ที่ได้เปลี่ยนการปกครองใหม่ ครั้นแล้ว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สภาผู้แทนราษฎรปรึกษากันร่างพระราชกำหนดบทรัฐธรรมนูญอันจะพึงตรึงเป็นหลักถาวรแห่งประศาสนวิธีต่อไป ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้แต่งตั้งอนุกรรมการขึ้นคณะหนึ่งประกอบการร่างรัฐธรรมนูญนั้น

06

[edit]
บัดนี้ อนุกรรมการได้เรียบเรียงรัฐธรรมนูญฉะบับถาวรสนองพระเดชพระคุณสำเร็จลงด้วยดี นำเสนอสภาผู้แทนราษฎร และสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาปรึกษาลงมติแล้ว จึ่งทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายคำปรึกษาแนะนำด้วยความยินยอมพร้อมที่จะตราเป็นรัฐธรรมนูญการปกครองแผ่นดินได้ เมื่อและทรงพระราชวิจารณ์ถี่ถ้วนทั่วกระบวนความแล้ว ทรงพระราชดำริเห็นสมควรพระราชทานพระบรมราชานุมัติ

07

[edit]
จึ่งมีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมสั่งให้ตรารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม ประสิทธิ์ประสาทประกาศพระราชทานแก่ประชากรของพระองค์ ให้ดำรงอิสสราธิปไตยโดยบริบูรณ์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

08

[edit]
ขอให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรของเรานี้ จงเป็นหลักที่สถาพรสถิตประดิษฐานสมรรถภาพอันประเสริฐ เป็นบ่อเกิดความผาสุกสันติคุณวิบุลราศีแก่อาณาประชาชนตลอดจำเนียรกาลประวัติ นำประเทศสยามบรรลุสรรพพิพัฒนชัยมงคล อเนกศุภผลสกลเกียรติยศมโหฬาร ขอให้พระบรมราชวงศานุวงศ์ และข้าราชการทั้งทหารพลเรือน ทวยอาณาประชาราษฎร จงมีความสมัครสโมสรเป็นเอกฉันท์ในอันจะรักษาปฏิบัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามนี้ ให้ยืนยงอยู่คู่กับสยามรัฐราชสีมา ตราบเท่ากัลปาวสาน สมดั่งพระบรมราชประณิธานทุกประการเทอญ

a

[edit]

บททั่วไป


1

[edit]
มาตราสยามประเทศเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ Section1.The country of Siam is one and unitary kingdom incapable of division.
ประชาชนชาวสยาม ไม่ว่าเหล่ากำเนิดหรือศาสนาใด ย่อมอยู่ในความคุ้มครองแห่งรัฐธรรมนูญนี้เสมอกัน The Siamese people, irrespective of their origin or religion, are equally under the protection of this Constitution.

2

[edit]
มาตราอำนาจอธิปไตยย่อมมาจากปวงชนชาวสยาม พระมหากษัตริย์ ผู้เป็นประมุข ทรงใช้อำนาจนั้นแต่โดยบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ Section2.The sovereign power does derive from all the Siamese people. The Monarch, who is the Head [of State], exercises such power by virtue of the provisions of this Constitution only.

b

[edit]

หมวด ๑
พระมหากษัตริย์




3

[edit]
มาตราองค์พระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ Section3.The person of the Monarch stays in the state of being respected and adored[1] and shall be violated by no one.

4

[edit]
มาตราพระมหากษัตริย์ต้องทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก Section4.The Monarch must be a Buddha's devotee and is the supreme patron of religions.[2]

5

[edit]
มาตราพระมหากษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพสยาม Section5.The Monarch holds the position of Commander-in-Chief of the Siamese Armed Forces.

6

[edit]
มาตราพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจนีติบัญญัติโดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร Section6.The Monarch exercises the legislative power by and with the advice and consent of the House of Representatives.

7

[edit]
มาตราพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจบริหารทางคณะรัฐมนตรี Section7.The Monarch exercises the executive power through the Council of Ministers.

8

[edit]
มาตราพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจตุลาการทางศาลที่ได้ตั้งขึ้นตามกฎหมาย Section8.The Monarch exercises the judicial power through the courts which have been established in accordance with the law.

9

[edit]
มาตราการสืบราชสมบัติ ท่านว่า ให้เป็นไปโดยนัยแห่งกฎมนเทียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. ๒๔๖๗ และประกอบด้วยความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร Section9.Succession to the royal throne, Lord says,[3] shall be in accordance with the modes[4] under[5] the Palace Law on Succession, 2467 BE,[6] together with the approval of the House of Representatives.

10

[edit]
มาตรา๑๐ในเมื่อพระมหากษัตริย์จะไม่ประทับอยู่ในราชอาณาจักร หรือด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งจะทรงบริหารพระราชภาระไม่ได้ จะได้ทรงตั้งบุคคลหนึ่งหรือหลายคนเป็นคณะขึ้นให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ด้วยความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร ถ้าหากพระมหากษัตริย์มิได้ทรงตั้งหรือไม่สามารถจะทรงตั้งได้ไซร้ ท่านให้สภาผู้แทนราษฎรปรึกษากันตั้งขึ้น และในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรยังมิได้ตั้งผู้ใด ท่านให้คณะรัฐมนตรีกระทำหน้าที่นั้นไปชั่วคราว Section10.Whenever the Monarch is to not reside in the Kingdom or is to be unable to handle his royal burdens for any reason, he will, with the approval of the House of Representatives, appoint to regency one person or several persons as a group. If the Monarch has not appointed [any Regent] or is unable to appoint [any Regent], Lord ordains[3] that the House of Representatives shall hold discussions and appoint [a Regent], and whilst the House of Representatives has not yet appointed anyone, Lord ordains that the Council of Ministers shall carry out such a duty[7] for the time being.

11

[edit]
มาตรา๑๑พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป โดยกำเนิดหรือโดยแต่งตั้งก็ตาม ย่อมดำรงอยู่ในฐานะเหนือการเมือง Section11.Senior and junior members of the royalty with the rank of momchao[8] or higher, whether so born or appointed, do stay in the state of being above politics.[9]

c

[edit]

หมวด ๒
สิทธิและหน้าที่ของชนชาวสยาม




12

[edit]
มาตรา๑๒ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญนี้ บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย ฐานันดรศักดิ์โดยกำเนิดก็ดี โดยแต่งตั้งก็ดี หรือโดยประการอื่นใดก็ดี ไม่กระทำให้เกิดเอกสิทธิ์อย่างใดเลย Section12.Subject to the provisions of this Constitution, persons are equal before the law. No title,[10] whether [acquired] by birth, by appointment, or by any other means, shall give rise to a privilege of any kind.

13

[edit]
มาตรา๑๓บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนาหรือลัทธิใด ๆ และย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือของตน เมื่อไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองและไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมของประชาชน Section13.Persons do have complete freedom to profess any religion or doctrine and do have freedom to perform rituals according to their own believes when these are not against their civic duties and are not contrary to the peace and order or morality of the people.

14

[edit]
มาตรา๑๔ภายในบังคับแห่งบทกฎหมาย บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในร่างกาย เคหสถาน ทรัพย์สิน การพูด การเขียน การโฆษณา การศึกษาอบรม การประชุมโดยเปิดเผย การตั้งสมาคม การอาชีพ Section14.Subject to legal provisions, persons do have absolute freedom of the person, home, property, speech, writing, publication, education, public assembly, association, and occupation.

15

[edit]
มาตรา๑๕บุคคลมีหน้าที่เคารพต่อกฎหมาย และมีหน้าที่ป้องกันประเทศ ช่วยเหลือราชการโดยทางเสียภาษี และอื่น ๆ ภายในเงื่อนไขและโดยอาการที่กฎหมายบัญญัติ Section15.Persons have the duty to respect the law and the duty to defend the Country and assist the governmental affairs by way of payment of taxes and by other ways, subject to the conditions and in the manners as provided by the law.

d

[edit]

หมวด ๓
สภาผู้แทนราษฎร




16

[edit]
มาตรา๑๖สภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย สมาชิกซึ่งราษฎรเป็นผู้เลือกตั้งขึ้น Section16.The House of Representatives[11] consists of the Members elected by the citizens.

17

[edit]
มาตรา๑๗คุณสมบัติแห่งผู้เลือกตั้งและผู้สมัครรับเลือกตั้ง อีกทั้งวิธีเลือกตั้ง และจำนวนสมาชิก ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร Section17.The qualifications of the electors and electoral candidates, as well as the electoral methods and the number of the Members, shall be in accordance with the law on election of Members of the House of Representatives.

18

[edit]
มาตรา๑๘สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้อยู่ในตำแหน่งได้คราวละสี่ปี ถ้าตำแหน่งสมาชิกว่างลงเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ ให้เลือกตั้งสมาชิกขึ้นแทนให้เต็มตำแหน่งที่ว่างอยู่ แต่สมาชิกที่เข้ามาแทนนั้นให้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน Section18.Members of the House of Representatives shall be in their positions for a term of four years. If positions of Members become vacant for any other reason than retirement by rotation, replacing Members shall be elected to fill all the vacant positions, but the replacing Members shall only be in the positions for the time limit[12] of the persons they replace.

19

[edit]
มาตรา๑๙ก่อนเข้ารับหน้าที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องปฏิญาณในที่ประชุมแห่งสภาว่า จะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญนี้ Section19.Prior to assuming their duties, Members of the House of Representatives must affirm at a meeting of the House that they will preserve and observe this Constitution.

20

[edit]
มาตรา๒๐สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรย่อมเป็นผู้แทนของปวงชนชาวสยาม มิใช่แทนแต่ฉะเพาะผู้ที่เลือกตั้งตนขึ้นมา ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามความเห็นของตนโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมายใด ๆ Section20.Members of the House of Representatives do represent all the Siamese people, not only the persons electing them; must perform their duties in accordance with their faithful opinions; and must not be bound by any mandate or commitment.

21

[edit]
มาตรา๒๑สมาชิกภาพแห่งสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง เมื่อ Section21.A membership in the House of Representatives comes to an end upon:
(๑)ถึงคราวออกตามวาระ หรือยุบสภา (1)retirement by rotation or dissolution of the House;
(๒)ตาย (2)death;
(๓)ลาออก (3)resignation;
(๔)ขาดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (4)lack of a qualification for an electoral candidate according to the law on election of Members of the House of Representatives;
(๕)สภาผู้แทนราษฎรวินิจฉัยให้ออกจากตำแหน่ง โดยเห็นว่า มีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่สภา มติในข้อนี้ต้องมีเสียงไม่ต่ำกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม (5)discharge from the position by a decision of the House of Representatives which finds him to have conducted himself in such a manner that would bring about detriment to the House; the resolution in this matter must gain the votes of not less than two thirds of the total number of the present Members.

22

[edit]
มาตรา๒๒พระมหากษัตริย์ทรงตั้งสมาชิกในสภาผู้แทนราษฎรตามมติของสภาให้เป็นประธานแห่งสภาหนึ่งนาย เป็นรองประธานนายหนึ่งหรือหลายนายก็ได้ Section22.In accordance with the resolution of the House, the Monarch appoints one Member of the House of Representatives as President of the House [and appoints] one or more [Members of the House of Representatives] as Vice Presidents [of the House].[13]

23

[edit]
มาตรา๒๓ประธานแห่งสภามีหน้าที่ดำเนิรกิจการของสภาให้เป็นไปตามระเบียบ รองประธานมีหน้าที่กระทำกิจการแทนประธานในเมื่อประธานไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ Section23.The President of the House has the duty to conduct the business of the House in accordance with its rules. The Vice President has the duty to execute the business on behalf of the President whenever the President is absent or is unable to perform his duties.

24

[edit]
มาตรา๒๔ในเมื่อประธานและรองประธานไม่อยู่ในที่ประชุม ให้สมาชิกเลือกตั้งกันเองขึ้นเป็นประธานการประชุมในคราวประชุมนั้น Section24.Whenever the President and Vice President are absent from a meeting, the Members shall elect [one] amongst themselves to preside over that meeting.[14]

25

[edit]
มาตรา๒๕การประชุมทุกคราว ต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่ต่ำกว่าหนึ่งในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมด จึ่งเป็นองค์ประชุมได้ Section25.At every meeting, the attendance of not less than one third of the total number of the Members is required for forming a quorum.[15]

26

[edit]
มาตรา๒๖การลงมติวินิจฉัยข้อปรึกษานั้น ให้ถือเอาเสียงข้างมากเป็นประมาณ เว้นไว้แต่เรื่องซึ่งมีบทบัญญัติไว้เป็นพิเศษในรัฐธรรมนูญนี้ Section26.Passage of a resolution ruling upon an issue of deliberation shall be based upon the majority of votes as a rule, save in the matters for which this Constitution contains special provisions.
สมาชิกคนหนึ่งย่อมมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้ามีจำนวนเสียงลงคะแนนเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นได้อีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด In voting, one Member does have one vote. At a parity of votes, the person presiding over the meeting shall be entitled to give one additional vote as a casting vote.

27

[edit]
มาตรา๒๗ในที่ประชุมแห่งสภา สมาชิกผู้ใดจะกล่าวถ้อยคำใด ๆ ในทางแสดงข้อความ หรือแสดงความเห็น หรือออกเสียงลงคะแนน ท่านว่า เป็นเอกสิทธิ์อันเด็ดขาด ผู้ใดจะนำไปเป็นเหตุฟ้องร้องว่ากล่าวสมาชิกผู้นั้นในทางใด ๆ มิได้ Section27.At a meeting of the House, if any Member wishes to state anything in such a way as to express information, or express an opinion, or give a vote, the Lord says[3] that it is his absolute privilege [to do so]. No one may take it as a ground for subjecting such Member to any sort of suit or litigation.
เอกสิทธิ์นี้คุ้มครองไปถึงผู้พิมพ์และโฆษณารายงานการประชุมโดยคำสั่งของสภา และคุ้มครองไปถึงบุคคลที่สภาเชิญมาแสดงข้อความหรือออกความเห็นในที่ประชุมด้วย The protection of this privilege extends to the persons printing and publishing meeting transcripts at the behest of the House, and also extends to the persons invited by the House to come and express information or express opinions at its meetings.

28

[edit]
มาตรา๒๘ในปีหนึ่ง ท่านให้มีสมัยประชุมสามัญสมัยหนึ่งหรือหลายสมัยแล้วแต่สภาจะกำหนด การประชุมครั้งแรก ต้องกำหนดให้สมาชิกได้มาประชุมภายในเวลาเก้าสิบวันนับแต่การเลือกตั้งเสร็จแล้ว วันเริ่มสมัยประชุมสามัญประจำปี ท่านให้สภากำหนด Section28.The Lord commands[3] that, in each year,[16] there shall be one or several ordinary sessions as may be designated by the House. The first meeting must be designated in a way that enables the Members to come and attend it within ninety days reckoned from the completion of the election. The first day of an annual ordinary session shall, the Lord says,[3] be designated by the House.

29

[edit]
มาตรา๒๙สมัยประชุมสามัญสมัยหนึ่ง ๆ ท่านว่า มีกำหนดเวลาเก้าสิบวัน แต่พระมหากษัตริย์จะโปรดเกล้าฯ ให้ขยายเวลาออกไปก็ได้ Section29.Each ordinary session, the Lord says,[3] is limited to ninety days,[17] but the Monarch may allow the period to be extended.
อนึ่ง ในระหว่างเวลาเก้าสิบวันนั้น จะโปรดเกล้าฯ ให้ปิดประชุมก็ได้ In addition, during such period of ninety days, the Monarch may allow the session to be prorogued.

30

[edit]
มาตรา๓๐พระมหากษัตริย์ทรงเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามสมัยประชุม และทรงเปิดปิดประชุม Section30.The Monarch convenes the House of Representatives according to its sessions, and opens and closes the sessions.
พิธีเปิดประชุม จะทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนิรมาทรงทำ หรือจะโปรดเกล้าฯ ให้รัชชทายาทที่บรรลุนิติภาวะแล้ว หรือนายกรัฐมนตรี กระทำพิธีแทนพระองค์ก็ได้ As for the ceremony of opening a session, [the Monarch] may come and perform it [in person] or may allow his heir who has already attained majority or the Prime Minister to perform it on his behalf.

31

[edit]
มาตรา๓๑เมื่อเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พระมหากษัตริย์จะทรงเรียกประชุมวิสามัญแห่งสภาผู้แทนราษฎรก็ได้ Section31.When it is necessary for the benefit of the State, the Monarch may convene an extraordinary session of the House of Representatives.

32

[edit]
มาตรา๓๒เมื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีจำนวนไม่ต่ำกว่าหนึ่งในสามของจำนวนทั้งหมดเห็นเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐแล้ว ย่อมมีสิทธิรวมกันทำคำร้องขอต่อประธานแห่งสภาให้นำความกราบบังคมทูลขอให้ทรงเรียกประชุมวิสามัญแห่งสภาผู้แทนราษฎรได้ ในกรณีเช่นนี้ ท่านให้ประธานแห่งสภานำความกราบบังคมทูลและรับสนองพระบรมราชโองการ Section32.When Members of the House of Representatives numbering not less than one third of the total number find it necessary for the benefit of the State, they do have the right to jointly apply to the President of the House to submit the matter to the Monarch, asking him to convene an extraordinary session of the House of Representatives. In such an event, the Lord commands[3] that the President of the House shall submit the matter to the Monarch and countersign his royal command.

33

[edit]
มาตรา๓๓ในระหว่างสมัยประชุม ผู้ใดจะฟ้องสมาชิกแห่งสภาในทางอาชญา ท่านว่า ศาลจะต้องได้รับอนุญาตจากสภาก่อนจึ่งพิจารณาได้ และการพิจารณาคดีนั้นต้องมิให้เป็นการขัดขวางต่อการที่สมาชิกผู้นั้นจะมาเข้าประชุม Section33.During a session, when anyone files a criminal charge against a Member of the House, the Lord says[3] that the court must prior obtain permission from the House before conducting the trial and the trial of such case must not prevent the Member from attending meetings.
อนึ่ง การพิจารณาคดีที่ศาลได้กระทำไปก่อนมีคำอ้างว่า ผู้ต้องหาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น ท่านว่า เป็นอันใช้ได In addition, the trial of the case which the court has conducted before there arises a claim that the alleged offender is a Member of the House of Representatives shall, the Lord says,[3] remain valid.

34

[edit]
มาตรา๓๔ในระหว่างสมัยประชุม ห้ามมิให้จับหรือหมายเรียกตัวสมาชิกไปกักขัง เว้นไว้แต่จับในขณะกระทำผิด แต่ต้องรีบรายงานไปยังประธานแห่งสภา และประธานแห่งสภาอาจสั่งปล่อยผู้ถูกจับให้พ้นจากการกักขังได้ Section34.During a session, no Member shall be arrested or summoned to be detained, save where he is arrested whilst committing an offence, but this must be reported to the President of the House immediately and the President of the House may order that the arrested person be released from detention.

35

[edit]
มาตรา๓๕พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ราษฎรเลือกตั้งสมาชิกมาใหม่ ในพระราชกฤษฎีกาให้ยุบสภาเช่นนี้ ต้องมีกำหนดให้เลือกตั้งสมาชิกใหม่ภายในเก้าสิบวัน Section35.The Monarch wields the royal power to dissolve the House of Representatives so as to enable the citizens to elect its Members anew. In the royal decree dissolving the House in such a manner, an election of new Members must be designated to be held within ninety days.

36

[edit]
มาตรา๓๖บรรดาพระราชบัญญัติทั้งหลายจะตราขึ้นเป็นกฎหมายได้แต่โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร Section36.All acts can be enacted into laws by and with the advice and consent of the House of Representatives only.

37

[edit]
มาตรา๓๗งบประมาณแผ่นดินประจำปี ท่านว่า ต้องตราขึ้นเป็นพระราชบัญญัติ ถ้าและพระราชบัญญัติออกไม่ทันปีใหม่ ท่านให้ใช้พระราชบัญญัติงบประมาณปีก่อนนั้นไปพลาง Section37.An annual budget of the State must, Lord says,[3] be enacted as an act, and if the act cannot be issued in time for the new year, Lord ordains that the budget act for the previous year shall be applied for the time being.

38

[edit]
มาตรา๓๘เมื่อสภาผู้แทนราษฎรได้ร่างพระราชบัญญัติขึ้นสำเร็จแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย และเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ท่านให้ใช้บังคับเป็นกฎหมายได้ Section38.Once the House of Representatives has finished a bill, the Prime Minister shall present it [to the Monarch][18] so that the Monarch may sign it, and once it has been published in the Government Gazette, Lord ordains[3] that it shall become applicable as a law.

39

[edit]
มาตรา๓๙ถ้าพระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วยร่างพระราชบัญญัตินั้น จะได้พระราชทานคืนมายังสภาภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่นายกรัฐมนตรีนำทูลเกล้าฯ ถวายก็ดี หรือมิได้พระราชทานคืนมายังสภาภายในหนึ่งเดือนนั้นก็ดี สภาจะต้องปรึกษากันใหม่และออกเสียงลงคะแนนลับโดยวิธีเรียกชื่อ ถ้าและสภาลงมติตามเดิมไซร้ ท่านให้นำร่างพระราชบัญญัตินั้นขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระมหากษัตริย์มิได้ทรงลงพระปรมาภิไธยพระราชทานลงมาภายในสิบห้าวันแล้ว ท่านให้ประกาศพระราชบัญญัตินั้นใช้บังคับเป็นกฎหมายได้ Section39.If the Monarch does not agree with a bill, he would deliver it back to the House within one month reckoned from the day of its presentation to him by the Prime Minister, or [if] he does not deliver it back to the House within such one month, the House must discuss it anew and vote on it in secret by means of roll call, and if the House passes the same resolution, Lord ordains[3] that the bill shall once again be presented [to the Monarch].[18] When the Monarch fails to sign it and deliver it back within fifteen days, Lord ordains that the bill shall be published and become applicable as a law.

40

[edit]
มาตรา๔๐สภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจควบคุมราชการแผ่นดิน Section40.The House of Representatives has the power to control the governmental affairs of the State.
ในที่ประชุม สมาชิกทุกคนมีสิทธิตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีในข้อความใด ๆ อันเกี่ยวกับการงานในหน้าที่ได้ แต่รัฐมนตรีย่อมทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะไม่ตอบ เมื่อเห็นว่า ข้อความนั้น ๆ ยังไม่ควรเปิดเผย เพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน At a meeting, every Member has the right to interpellate a Minister about any information relating to the work under his duty, but the Minister does wield the right to withhold the answer when he finds that such information should not yet be disclosed, for it deals with the safety or important benefit of the State.

41

[edit]
มาตรา๔๑สภาย่อมทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะลงมติความไว้ใจในรัฐมนตรีรายตัวหรือทั้งคณะ Section41.The House does wield the right to pass a vote of confidence for the Ministers individually or collectively.
ญัตติความไว้ใจนั้น ท่านมิให้ลงมติในวันเดียวกันกับวันที่ปรึกษา A motion for confidence shall, Lord says,[3] not be put to vote on the same day as the day it is discussed.

42

[edit]
มาตรา๔๒การประชุมของสภาผู้แทนราษฎรย่อมเป็นการเปิดเผยตามลักษณะที่จะได้กำหนดไว้ในข้อบังคับของสภา แต่การประชุมลับก็ย่อมมีได้เมื่อคณะรัฐมนตรีร้องขอหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมกันไม่ต่ำกว่าสิบห้าคนร้องขอ Section42.Meetings of the House of Representatives are public in such manners as to be designated in the regulations of the House, but secret meetings can be held upon request of the Council of Ministers or upon joint request of not less than fifteen Members of the House of Representatives.

43

[edit]
มาตรา๔๓สภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจเลือกสมาชิกตั้งเป็นคณะกรรมาธิการสามัญ และมีอำนาจเลือกบุคคลที่เป็นสมาชิกหรือมิได้เป็นสมาชิกก็ตามเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อกระทำกิจการหรือพิจารณาสอบสวนข้อความใด ๆ อันอยู่ในวงงานของสภาแล้วรายงานต่อสภา คณะกรรมาธิการที่กล่าวนี้ย่อมมีอำนาจเรียกบุคคลใด ๆ มาชี้แจงแสดงความเห็นในกิจการที่กระทำหรือพิจารณาอยู่นั้นได้ Section43.The House of Representatives has the power to select its Members and appoint them as a standing committee and has the power to select persons who are its Members or are not even its Members as a select committee for carrying out any matter or considering or inquiring into any information within the purview of the House before giving reports thereon to the House. Such a said committee does have the power to summon any person to appear and give an explanation or opinion in relation to the matter it is carrying out or considering.
เอกสิทธิ์ที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๗ นั้น ท่านว่า คุ้มครองถึงบุคคลผู้กระทำหน้าที่ตามมาตรานี้ด้วย The privilege provided in section 27, Lord says,[3] extends to the persons who carry out the duties under this section also.

44

[edit]
มาตรา๔๔การประชุมคณะกรรมาธิการตามมาตรา ๔๓ นั้น ท่านว่า ต้องมีกรรมาธิการมาประชุมไม่ต่ำกว่ากึ่งจำนวน จึ่งเป็นองค์ประชุมได้ Section44.At meetings of a committee under section 43, the attendance of not less than one half of the number of its members is, Lord says,[3] required for forming a quorum.

45

[edit]
มาตรา๔๕สภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจตั้งข้อบังคับการประชุมและการปรึกษาของสภาเพื่อดำเนิรการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ Section45.The House of Representatives has the power to establish regulations on the conduct of meetings and discussions of the House for the execution of the provisions of this Constitution.

e

[edit]

หมวด ๔
คณะรัฐมนตรี




46

[edit]
มาตรา๔๖พระมหากษัตริย์ทรงตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วย นายกนายหนึ่ง และรัฐมนตรีอีกอย่างน้อยสิบสี่นาย อย่างมากยี่สิบสี่นาย Section46.The Monarch appoints a Council of Ministers which consists of one Premier and other Ministers [numbering] fourteen at least, twenty-four at most.[13]
ในการตั้งนายกรัฐมนตรี ประธานแห่งสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ In appointing the Prime Minister, the President of the House countersigns the royal command.
ให้คณะรัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน The Council of Ministers shall have the duty to administer the governmental affairs of the State.

47

[edit]
มาตรา๔๗นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีกสิบสี่นาย ต้องเลือกจากสมาชิกของสภาผู้แทนราษฎร นอกนั้น จะเลือกจากผู้ที่เห็นว่า มีความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษ แม้มิได้เป็นสมาชิกของสภาผู้แทนราษฎรก็ได้ แต่ต้องเป็นผู้ที่อาจดำรงตำแหน่งการเมืองได้ Section47.The Prime Minister and fourteen other Ministers[13] must be selected from amongst the Members of the House of Representatives. The rest may be selected from amongst the persons deemed to be of special knowledge or proficiency, though not being Members of the House of Representatives; however, they must be able to hold political positions.

48

[edit]
มาตรา๔๘รัฐมนตรีผู้มิได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น ย่อมมีสิทธิไปประชุมและแสดงความเห็นในสภาผู้แทนราษฎรได้ แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน Section48.The Ministers who are not Members of the House of Representatives do have the right to attend meetings of and express opinions amongst the House of Representatives, but they have no right to vote [there].
เอกสิทธิ์ที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๗ นั้น ท่านให้นำมาใช้ด้วยโดยอนุโลม The privilege provided in section 27 shall, Lord says,[3] also apply mutatis mutandis.

49

[edit]
มาตรา๔๙การตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นรัฐมนตรีนั้น ไม่ทำให้ผู้ได้รับตั้งจำต้องลาออกจากสมาชิกภาพ Section49.The appointment of a Member of the House of Representatives as a Minister does not require the appointee to resign from membership.

50

[edit]
มาตรา๕๐ในการบริหารราชการแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไว้ใจของสภาผู้แทนราษฎร Section50.In administering the governmental affairs of the State, the Council of Ministers must perform its duties with the confidence of the House of Representatives.
รัฐมนตรีผู้ได้รับแต่งตั้งให้บัญชาการกระทรวงทะบวงการ ต้องรับผิดชอบในหน้าที่ของตนต่อสภาผู้แทนราษฎรในทางรัฐธรรมนูญ และรัฐมนตรีทุกคน จะได้รับแต่งตั้งให้บัญชาการกระทรวงทะบวงหรือไม่ก็ตาม ต้องรับผิดชอบร่วมกันในนโยบายทั่วไปของรัฐบาล A Minister who has been appointed to take charge of a ministry or sub-ministry must be constitutionally responsible for his own duties to the House of Representatives, and every Minister, whether or not appointed to take charge of a ministry or sub-ministry, must be jointly responsible for the general policy of the Government.

51

[edit]
มาตรา๕๑รัฐมนตรีทั้งคณะต้องออกจากตำแหน่ง เมื่อสภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่ไว้ใจในคณะ หรือเมื่อสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ให้ความไว้ใจแก่คณะรัฐมนตรีในขณะเข้ารับหน้าที่นั้นสิ้นสุดลง ในกรณีทั้งสองนี้ ท่านว่า คณะรัฐมนตรีที่ออกนั้นต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อดำเนิรการไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ Section51.The Ministers must retire from their positions collectively when the House of Representatives passes a vote of no confidence on them collectively or when the House of Representatives which has given confidence to them[19] at the time of their assumption of duties comes to an end. In both events, Lord says[3] that the Council of Ministers so retired must remain in position to continue its business until a newly appointed Council of Ministers assumes duties.
นอกจากนี้ ความเป็นรัฐมนตรีจะสิ้นสุดลงฉะเพาะตัว โดย Apart from this, ministership comes to an end individually upon—
(๑)ตาย (1)death;
(๒)ลาออก (2)resignation;
(๓)ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๒๑ (๔) (3)lack of the qualification under section 21(4);
(๔)สภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่ไว้ใจ (4)passage of a vote of no confidence by the House of Representatives.

52

[edit]
มาตรา๕๒ในเหตุฉุกเฉินซึ่งจะเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ทันท่วงทีมิได้ พระมหากษัตริย์จะทรงตราพระราชกำหนดให้ใช้บังคับดั่งเช่นพระราชบัญญัติก็ได้ Section52.In an event of emergency where the House of Representatives cannot be convened promptly, the Monarch may enact an emergency decree to be applied as an act.
ในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ท่านให้นำพระราชกำหนดนั้นเสนอต่อสภาเพื่ออนุมัติ ถ้าสภาอนุมัติแล้ว พระราชกำหนดนั้นก็เป็นพระราชบัญญัติต่อไป ถ้าสภาไม่อนุมัติไซร้ พระราชกำหนดนั้นเป็นอันตกไป แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบถึงกิจการที่ได้เป็นไปในระหว่างที่ใช้พระราชกำหนดนั้น At the next meeting of the House of Representatives, Lord ordains[3] that the said emergency decree shall be submitted to the House for endorsement. If endorsed by the House, the emergency decree shall continue to be an act. If not endorsed by the House, the emergency decree shall lapse, but this shall not affect the affairs which took place during the application of such emergency decree.
คำอนุมัติและไม่อนุมัติของสภาที่กล่าวนี้ ท่านว่า ให้ทำเป็นพระราชบัญญัติ The House's endorsement or[20] refusal to give endorsement as said shall, Lord says,[3] be made in the form of an act.

53

[edit]
มาตรา๕๓พระมหากษัตริย์ทรงประกาศใช้กฎอัยยการศึกตามลักษณะและวิธีการในพระราชบัญญัติกฎอัยยการศึก Section53.The Monarch promulgates martial law in accordance with the criteria and procedure under the Martial Law Act.[21]

54

[edit]
มาตรา๕๔พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการประกาศสงคราม ทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สงบศึก และทำหนังสือสัญญาอื่น ๆ กับนานาประเทศ Section54.The Monarch wields the royal power to declare war, conclude written agreements on peace or pacification, and conclude other written agreements with various countries.
การประกาศสงครามนั้น จะทรงทำต่อเมื่อไม่ขัดแก่บทบัญญัติแห่งกติกาสันนิบาตชาติ The declaration of war may be made only when it is not contrary to the provisions of the Covenant of the League of Nations.
หนังสือสัญญาใด ๆ มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตสยาม หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามสัญญาไซร้ ท่านว่า ต้องได้รับความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร Any written agreement which provides for a change in the territory of Siam or of which the implementation requires the issuance of an act must, Lord says,[3] obtain the approval of the House of Representatives.

55

[edit]
มาตรา๕๕พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะพระราชทานอภัยโทษ Section55.⁠The Monarch wields the royal power to grant pardon.

56

[edit]
มาตรา๕๖พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะตราพระราชกฤษฎีกาโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย Section56.⁠The Monarch wields the royal power to enact royal decrees which are not contrary to the law.

57

[edit]
มาตรา๕๗ภายในบังคับแห่งมาตรา ๓๒ และ ๔๖ บทกฎหมาย พระราชหัตถเลขา และพระบรมราชโองการใด ๆ อันเกี่ยวกับราชการแผ่นดิน ท่านว่า รัฐมนตรีนายหนึ่งต้องลงนามรับสนองพระบรมราชโองการเป็นผู้รับผิดชอบ Section57.Subject to sections 32 and 46, Lord says[3] that any legal provision, royal handwriting,[22] or royal command in relation to the governmental affairs of the State must be countersigned by a Minister as the person responsible therefor.

f

[edit]

หมวด ๕
ศาล




58

[edit]
มาตรา๕๘การพิจารณาพิพากษาอรรถคดี ท่านว่า เป็นอำนาจของศาลโดยฉะเพาะ ซึ่งจะต้องดำเนิรตามกฎหมายและในนามพระมหากษัตริย์ Section58.The trial and adjudication of cases shall, Lord says,[3] be the exclusive power of the courts, which must be exercised in accordance with the law and in the name of the Monarch.

59

[edit]
มาตรา๕๙บรรดาศาลทั้งหลายจักตั้งขึ้นได้แต่โดยพระราชบัญญัติ Section59.All courts can only be established by acts.

60

[edit]
มาตรา๖๐ผู้พิพากษาย่อมมีอิสสระในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีให้เป็นไปตามกฎหมาย Section60.Judges do enjoy independence in trying and adjudicating upon cases in accordance with the law.

g

[edit]

หมวด ๖
บทสุดท้าย




61

[edit]
มาตรา๖๑บทบัญญัติแห่งกฎหมายใด ๆ มีข้อความแย้งหรือขัดแก่รัฐธรรมนูญนี้ ท่านว่า บทบัญญัตินั้น ๆ เป็นโมฆะ Section61.Where a provision of any law contains information which is repugnant or contrary to this Constitution, Lord says[3] that such a provision is void.

62

[edit]
มาตรา๖๒ท่านว่า สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งสิทธิเด็ดขาดในการตีความแห่งรัฐธรรมนูญนี้ Section62.Lord says[3] that the House of Representatives wields[23] the absolute right to interpret this Constitution.

63

[edit]
มาตรา๖๓รัฐธรรมนูญนี้จะแก้ไขเพิ่มเติมได้แต่โดยเงื่อนไขต่อไปนี้ Section63.This Constitution can only be amended under the following conditions:
๑.ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติม ท่านว่า ต้องมาจากคณะรัฐมนตรีทางหนึ่ง หรือมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งรวมกันมีจำนวนไม่ต่ำกว่าหนึ่งในสี่แห่งจำนวนสมาชิกทั้งหมดทางหนึ่ง 1.Lord says[3] that an amendment motion must be, in one way, from the Council of Ministers or, in the other way, jointly from Members of the House whose number is not less than one fourth of the total number of the Members;
๒.เมื่อสมาชิกได้ลงมติครั้งหนึ่งแล้ว ท่านให้รอไว้หนึ่งเดือน เมื่อพ้นกำหนดแล้ว ให้นำขึ้นเสนอสภาเพื่อลงมติอีกครั้งหนึ่ง 2.once the Members have passed a resolution at one reading, Lord ordains [the motion] shall be stayed for one month, [and] once [this time] limit is over, [the motion] shall be re-submitted to the House for passage of a resolution at a new reading;
๓.การออกเสียงลงคะแนน ท่านให้ใช้วิธีเรียกชื่อ และต้องมีเสียงเห็นชอบด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมนั้นไม่ต่ำกว่าสามในสี่แห่งจำนวนสมาชิกทั้งหมด 3.Lord ordains that the voting shall be held by means of roll call and the amendment must be favoured by the votes of not less than three fourths of the total number of the Members.
เมื่อการออกเสียงลงมติได้เป็นไปตามที่กล่าวข้างบนนี้แล้ว ท่านจึ่งให้ดำเนิรการต่อไปตามบทบัญญัติมาตรา ๓๘, ๓๙ When the voting has been done in the above-said manner, Lord ordains that the matter shall then be proceeded with in accordance with the provisions of sections 38 and 39.

h

[edit]

หมวด ๗
การใช้รัฐธรรมนูญและบทฉะเพาะกาล




64

[edit]
มาตรา๖๔ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติหมวดนี้ ให้ใช้รัฐธรรมนูญนี้ตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป Section64.Subject to the provisions of this chapter, this Constitution shall come into force as from the day of its proclamation onwards.

65

[edit]
มาตรา๖๕เมื่อราษฎรผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ยังมีการศึกษาไม่จบประถมศึกษาสามัญมากกว่ากึ่งจำนวนทั้งหมด และอย่างช้าต้องไม่เกินกว่าสิบปีนับแต่วันใช้พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ. ๒๔๗๕ สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิก ๒ ประเภท มีจำนวนเท่ากัน Section65.As long as over half of the total number of the citizens having the right to vote in elections of Members of the House of Representatives in accordance with the provisions of this Constitution have not yet graduated from basic primary education schools,[24] and at the latest not more than ten years reckoned from the day of coming into force of the Act on Interim Charter for State Administration of Siam, 2475 BE,[25] the House of Representatives consists of two types of Members in an equal number:
(๑)สมาชิกประเภทที่ ๑ ได้แก่ ผู้ที่ราษฎรเลือกตั้งขึ้นตามเงื่อนไขในบทบัญญัติมาตรา ๑๖, ๑๗ (1)the First-Type Members are those elected by the citizens in accordance with the conditions under the provisions of sections 16 and 17;
(๒)สมาชิกประเภทที่ ๒ ได้แก่ ผู้ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในระหว่างเวลาที่ใช้บทบัญญัติฉะเพาะกาลในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช ๒๔๗๕ (2)the Second-Type Members are those appointed by the Monarch in accordance with the Act on Elections of Members of the House of Representatives During the Time the Transitory Provisions of the Constitution of the Kingdom of Siam Are in Force, 2475 Buddhist Era.[26]

66

[edit]
มาตรา๖๖ในระหว่างกำหนดเวลาที่กล่าวในมาตรา ๖๕ หากว่ามีการยุบสภาตามความในมาตรา ๓๕ ไซร้ ท่านให้มีการเลือกตั้งสมาชิกใหม่ฉะเพาะในส่วนสมาชิกประเภทที่ ๑ Section66.During the time limit stated in section 65, if the House is dissolved in accordance with the text of section 35, Lord ordains[3] that re-elections shall only be held for the First-Type Members.[27]

67

[edit]
มาตรา๖๗ภายในบังคับแห่งมาตรา ๒๑ (๒) (๓) (๔) (๕) ท่านว่า สมาชิกประเภทที่ ๒ คงอยู่ในตำแหน่งได้ตลอดเวลาที่กำหนดไว้ในมาตรา ๖๕ แต่ท่านมิให้มีการประชุมดำเนิรการของสภาในระหว่างที่สภาต้องยุบตามความในมาตรา ๓๕ Section67.Subject to section 21(2), (3), (4), and (5), Lord says[3] that the Second-Type Members can remain in their positions throughout the time limited by section 65, but Lord prohibits the House from meeting and conducting its business during its dissolution according to section 35.

68

[edit]
มาตรา๖๘ในระหว่างเวลาตั้งแต่ใช้รัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าสมาชิกตามมาตรา ๖๕ นั้นจะได้เข้ารับหน้าที่แล้ว ท่านว่า สภาผู้แทนราษฎรคงประกอบด้วยสมาชิกซึ่งมีอยู่แล้วโดยพระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ. ๒๔๗๕ Section68.During the time from the coming into force of this Constitution until the assumption of duties by the Members under section 65, Lord says[3] that the House of Representatives remains composed of the already existing Members under the Act on Interim Charter for Public Administration of Siam, 2475 BE.[25]

69

[edit]
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พระยามโนปกรณนิติธาดา
ประธานคณะกรรมการราษฎร
Countersignatory:
Phraya Manopakonnitithada
President of the Citizens' Committee

i

[edit]
  1. This is a literal translation. The term khaorop (Thai: เคารพ), here translated as "to respect", is defined by the Office of the Royal Society (2013) as (1) "to show esteem for" (2) "to refrain from violating, to refrain from interfering with". It is from Sanskrit gaurava ("homage, respect, etc"). The term sakkara (Thai: สักการ), which is here translated as "to adore", is defined by the same as "to worship with proper objects or instruments, as flowers, joss sticks, or candles". It is from Pali sakkāra ("hospitality, hospitable treatment, etc"), perhaps via Old Khmer sakkāra ("worship"). According to the House of Representatives (1932a, p. 376), the original draft of this provision only contained the term khaorop, which the drafters seemingly wanted to correspond to the term sacred in the Japanese constitution (perhaps referring to article 3 of the constitution of the Empire of Japan, which says the Japanese emperor is "sacred and inviolable"), and the term sakkara was later inserted just because "there should be the term sakkara also".
  2. This is a literal translation. The term phutthamamaka (Thai: พุทธมามกะ), which literally translates "Buddha's devotee", is a compound consisting of phuttha ("Buddha", from Pali buddha) and mamaka ("devotee", from Pali māmaka). The term akkhrasatsanupathamphok (Thai: อัครศาสนูปถัมภก), which literally translates "supreme patron of religions", is a compound consisting of akkhra ("supreme, excellent, top, etc", from Sanskrit agra), satsana ("religion", from Sanskrit śāsana), and upathamphok ("patron", from Pali upathambhaka). The English draft of this provision says "The King shall profess the Bud[d]hist religion and is the Upholder of the Faith" (House of Representatives, 1932a, p. 378).
  3. 3.00 3.01 3.02 3.03 3.04 3.05 3.06 3.07 3.08 3.09 3.10 3.11 3.12 3.13 3.14 3.15 3.16 3.17 3.18 3.19 3.20 3.21 3.22 3.23 3.24 3.25 3.26 3.27 This constitution retained the traditional fashion of writing legal provisions with such a phrase as than wa (Thai: ท่านว่า; "Lord says"), than hai (Thai: ท่านให้; "Lord ordains"), etc, which was based on the old belief that laws were created by deities, not humans. The legend about this is found in the preamble of Phra Thammasat (Thai: พระธรรมศาสตร์), a law enacted in the reign of Rama I, which says a hermit by the name of Manosan (Thai: มโนสาร) flied to the Walls of the Universe and found laws inscribed there by gods, he then committed them to his memory and flied back to the Earth before writing them as legal texts for use by humans (Office of the Royal Society, 2015, pp. 8–7).
  4. The term nai (Thai: นัย), here translated as "mode(s)", is defined by the Office of the Royal Society (2013) as (1) significance, importance; (2) significance, meaning, sense; (3) manner, mode, way. It can also mean "hidden sense", as in the expression khwammai doi nai (Thai: ความหมายโดยนัย), which means "meanings according to hidden senses", that is, "indirect meanings". Etymologically, it is from Pali naya ("method, mode, plan, etc"). The actual or intended meaning of this vague term here is not known and, surprisingly, was not discussed by the House of Representatives, as the House deemed that the term was "already clear literally" (House of Representatives, 1932b, p. 396).
  5. Literally, "of".
  6. The year 2467 BE started on 1 April 1924 CE and ended on 31 March 1925 CE. This palace law was enacted on 10 November, on which it was 1924 CE.
  7. The constitution did not clearly say what "such a duty" refer to. It can refer to the duty of the monarch, the duty as a regent, or the duty to appoint a regent.
  8. According to the Office of the Royal Society (2013)
    • Momchao (Thai: หม่อมเจ้า) is (1) a child of a prince who holds the rank of chaofa and his wife who holds this rank of momchao or his wife who is a commoner, or (2) a child of a phra-ongchao.
    • Chaofa (Thai: เจ้าฟ้า) is (1) a child of a monarch and his/her consort, or (2) a child of a daughter or niece of a monarch.
    • Phra-ongchao (Thai: พระองค์เจ้า) is (1) a child of a king and his concubine, (2) a child of a prince who holds the rank of chaofa and his wife who holds this rank of phra-ongchao, (3) a child of a prince who holds this rank of phra-ongchao and his wife who holds the same rank, or (4) a commoner appointed by a monarch as a royal person of this rank.
  9. This is a literal translation. See also the House's discussion on the draft of this provision at Translation:Transcript of the Meeting of the House of Representatives 36/2475.
  10. The term thanandonsak (Thai: ฐานันดรศักดิ์), here translated as "title", seems to specially refer to a royal or noble title, because it is a compound consisting of thanandon, which the Office of the Royal Society (2013) defines as "hierarchy of royalty" or "hierarchy of nobility", and sak, which is defined by the same as "status".
  11. Literally, "Council of Citizens' Representatives".
  12. Perhaps referring to the remaining term of office.
  13. 13.0 13.1 13.2 In the Thai text, these officers are classified by the masculine classifier nai (Thai: นาย). It implies that, under this constitution, these positions were only for men.
  14. Literally, "Members shall elect themselves to become the president of the meeting for the meeting on that occasion".
  15. Literally, "[At] every meeting, there must be Members attending the meeting not lower than one third of the total number of the Members, [and] then a quorum can be formed."
  16. Literally, "in one year".
  17. Literally, "has a time limit of ninety days".
  18. 18.0 18.1 123
  19. Literally, "to the Council of Ministers".
  20. Originally, "and".
  21. See Translation:Martial Law Act, 2457 Buddhist Era.
  22. Literally, hatthalekha (Thai: หัตถเลขา) means "handwriting" (handwritten document). It is a compound consisting of hattha ("hand") and lekha ("writing"). Despite the literal meaning, royal hatthalekha are generally found to have been typed (as by a typewriter or on a modern computer) rather handwritten.
  23. Literally, "is the person who wields".
  24. Literally, "still have the education [which] does not complete the basic primary education".
  25. 25.0 25.1 The interim charter replaced by this constitution. See Translation:Act on Interim Charter for State Administration of Siam, 2475 Buddhist Era.
  26. An act of the House of Representatives, enacted on 16 December 2475 BE (1932 CE). See Translation:Act on Elections of Members of the House of Representatives During the Time the Transitory Provisions of the Constitution of the Kingdom of Siam Are in Force, 2475 Buddhist Era.
  27. Literally, "if there is the dissolution of the House..., Lord ordains [that] there be elections of new Members only in the part of the First-Type Members".

j

[edit]
  • Office of the Royal Society (2013). Photchananukrom Chabap Ratchabandittayasathan Phoso Song Phan Ha Roi Hasip Si [Royal Institute Dictionary, 2554 BE]. https://dictionary.ors.go.th/ (In Thai).
  • Office of the Royal Society. (2015). Kotmai Tra Sam Duang: Phra Thammasat Lae Lak Inthaphat Chabap Ratchabandittayasapha [The Laws of the Three Seals: Phra Thammasat and Lak Inthaphat, Royal Society Version]. Bangkok: Office of the Royal Society. ISBN 9786163890160. (In Thai).
  • House of Representatives. (1932a, 25 November). Rai-ngan Kanprachum House of Representatives Khrang Thi Samsip Ha Thap Song Si Chet Ha [Transcript of the Meeting of the House of Representatives 35/2475]. House of Representatives: Ananta Samakhom Throne Hall. (In Thai).
  • House of Representatives. (1932b, 25 November). Rai-ngan Kanprachum House of Representatives Khrang Thi Samsip Hok Thap Song Si Chet Ha [Transcript of the Meeting of the House of Representatives 36/2475]. House of Representatives: Ananta Samakhom Throne Hall. (In Thai).